ชีวิตต้องก้าวต่อไป…..!

ทุกความสำเร็จที่ทำได้ อาจยังไม่ใช่จุดหมายของชีวิต และทุกความผิดหวังล้มเหลว ก็ใช่ว่าชีวิตจะสิ้นสุดลงทุกสิ่งอย่าง
เชื่อเถอะ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ตราบนั้นยังมีสิ่งสวยงามมากมายที่รอเวลาให้ได้สัมผัส
ดังนั้น…ชีวิตต้องก้าวต่อไป…..!

ทุกความสำเร็จที่ทำได้ อาจยังไม่ใช่จุดหมายของชีวิต และทุกความผิดหวังล้มเหลว ก็ใช่ว่าชีวิตจะสิ้นสุดลงทุกสิ่งอย่าง
เชื่อเถอะ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ตราบนั้นยังมีสิ่งสวยงามมากมายที่รอเวลาให้ได้สัมผัส
ดังนั้น…ชีวิตต้องก้าวต่อไป…..!

ชีวิต…ไม่อาจรู้ในโชคชะตา
ชีวิต…ไม่รู้ว่าหนทางจะไกลแค่ไหน
รู้แค่เพียง..วันนี้ยังมีลมหายใจ
ชีวิต..จึงต้องก้าวต่อไป
ด้วยความมั่นใจ.. และมีความสุข
เมื่อสิ้นสุดลมหายใจเมื่อใด
ชีวิต…จึงจะสิ้นสุดการเดินทาง (โลกมนุษย์)
#จงรักษากาย (ดูแลรักษาสุขภาพ)
#จงรักษาใจ (ทำความเข้าใจโลก)
#ทำชีวิตให้มีความสุขเสมอๆ

#มีผู้ถามว่า: ผู้มีนิสัยอิจฉาริษยาผู้อื่น จะได้รับผลกรรมอย่างไร..?
#คำตอบ: ใครที่มีนิสัยชอบอิจฉาริษยาชาวบ้าน คือคนที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี ความไม่อยากให้คนอื่นได้ดี คือไม่อยากให้คนอื่นทำความดีนั่นเอง เพราะกลัวว่าเขาจะได้ดีกว่าตน มีชื่อเสียงกว่าตน เพราะฉะนั้นมโนภาพที่มีอยู่ลึกๆ ในใจของเขาตลอดเวลา หรือความนึกคิดของเขาจึงเป็นในลักษณะที่นึกสร้างภาพ #ความต่ำต้อยต่ำช้าความพินาศไว้ในใจตลอดเวลา
#ผลกรรมนี้จะติดตัวไป เกิดอีกกี่ภพกี่ชาติ ภาพความต่ำต้อยต่ำช้าในใจที่สะสมไว้มาก จะทำให้เป็นเป็นคนด้อยคนเสื่อมอานุภาพ แม้จะเกิดเป็นผู้นำก็เป็นได้แค่ผู้นำประเทศราช หรือประเทศที่เป็นเมืองขึ้นเขา
#ถ้าจะเป็นภรรยาใคร ก็เป็นได้แค่ภรรยาน้อย ภรรยาลับเท่านั้น เป็นสามีเขาก็ได้ทำนองเดียวกันนั่นแหละ เรียกว่า อานุภาพมันด้อยมันเสื่อมไปทุกสถานะ
#และที่สำคัญมากๆ ถ้ายิ่งอิจฉาริษยาถึงกับลงมีอทำลายพระ..วัด..ศาสนา ด้วยวิธีการต่างๆผลกรรมนั้นจะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่าพันทวีทีเดียว
#กรรมเก่าอะไรที่ทำให้เขามีนิสัยขี้อิจฉาริษยา
#ตอบว่า : เพราะภพชาติในอดีตไปคบคนพาลเข้า ทำให้มีวินิจฉัยผิดมีความเห็นผิดตามคนพาล คือวินิจฉัยผิด คิดผิดว่าการทำลายล้างผลาญ หรือนึกให้คนอื่นเขาเสื่อมเสียย่อยยับไปได้ นั่นคือความสุขของตน ความเห็นเช่นนี้ เมื่อเกาะกินใจนานเข้าๆ ก็กลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีขึ้นมาสันดาน
#วิธีแก้ : หมั่นทำสมาธิ เจริญภาวนา ทำจิตให้สงบ ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ พิจารณาเหตุผล คุณโทษ แล้วเลิกละกรรมชั่วนั้นเสีย ก็พอจะมีทาง…เกิดมาจะได้ไม่ต้องไปเป็นภรรยาน้อย ภรรยาลับ หรือสามีน้อย สามีลับใครๆเขา…..เอวัง..ก็มีด้วยประการ ฉะนี้แล..!
Cr : นางแบบกิตติมศักดิ์ น้องไอติม อ.นาคู
จ.กาฬสินธุ์

ชัค ลาคิน (Chuck Larkin) ซึ่งเป็นช่างไม้ชาวอเมริกัน เขาต่อโลงศพของตัวเองตั้งไว้ในบ้าน โดยทำเป็นชั้นหนังสือชั่วคราว การเตรียมโลกศพไว้ใช้เอง นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการจัดงานศพ คือผู้อยู่ไม่ต้องเสียทรัพย์จัดหาแล้ว โลงศพในบ้านยังช่วยเป็นสิ่งเตือนสติด้วยว่า ทุกชีวิตเกิดมาก็ต้องตาย ทั้งยังช่วยสร้างบทสนทนาเกี่ยวกับการเตรียมตัวตาย สำหรับภายในครอบครัว เพื่อการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ซึ่งทางพุทธศาสนาเรียกว่า “มรณานุสติ“
ความตายรอเราอยู่ข้างหน้า เราจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ
ฉะนั้น ทุกวันที่ตื่นนอน หรือทุกครั้งที่ก้าวเท้าออกจากบ้าน พึงระลึกเสมอว่า ความตายรอเราอยู่ข้างหน้า เราจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ จะใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ฝึกบ่อยๆ เพื่อเกิดความคุ้นชิน…!
#หมายเหตุ : รายละเอียดศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ นิทรรศการย่อย คอฟฟี่เมรุ (Coffee meru) วัดน้ำ วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐

#ความเปลี่ยนแปลงในรอบ ๓๓ ปี
ชีวิตและอายุของสัตว์ทั้งหลาย
ล้วนมีความเสื่อมสิ้นไป
การเจริญเติบโต หรือที่เรียกว่า “วัย”
วัย หมายถึง เสื่อมสิ้นไป
ที่เข้าใจกันว่ากำลังเจริญวัยนั้น
แท้ที่จริงเรากำลังเสื่อม
กำลังก้าวเดินไป สู่ความตายทีละก้าวๆ
ในที่สุดก็จะถึงจุดดับสลาย
ประดุจสายน้ำน้อยนิด
ที่ถูกแสงแดดแผดเผา
จะต้องเหือดแห้งไปในที่สุด
จะทำอะไรให้รีบทำ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
…ชีวิตนั้นสั้นนัก
ทุกชีวิตเกิดมาแล้วต้องตาย
หนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย
โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย
รวยก็ตาย จนก็ตาย
ทุกคนล้วนต้องตาย
จะตายวันตายพรุ่ง ไม่มีใครรู้
แต่ที่รู้แน่ๆ คือ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า….!
สรุป คือ :
#จะทำอะไรให้รีบทำ
#อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง….!